
เครื่องฟอกอากาศ
การเลือกเครื่องฟอกอากาศและประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
เครื่องฟอกอากาศดีอย่างไร?
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์เสริม แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีในยุคปัจจุบัน โดยมีประโยชน์หลักๆ ดังนี้
ขจัดมลพิษในอากาศ: เครื่องฟอกอากาศจะดักจับและกำจัดอนุภาคที่เป็นอันตรายในอากาศภายในบ้าน เช่น ฝุ่น PM 2.5
(ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ), ฝุ่นละอองทั่วไป, เกสรดอกไม้, และสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยงลดอาการภูมิแพ้และหอบหืด: สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้ การกำจัดสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ออกจากอากาศจะช่วยลดอาการคัดจมูก, จาม, ไอ และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้อย่างมาก
กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์: ไส้กรองบางชนิด (เช่น ไส้กรองคาร์บอน) สามารถดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น กลิ่นอาหาร, กลิ่นสัตว์เลี้ยง, กลิ่นควันบุหรี่, หรือกลิ่นอับชื้น
ยับยั้งเชื้อโรคและไวรัส: เครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยีพิเศษบางอย่างสามารถช่วยทำลายหรือยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, และไวรัสบางชนิดในอากาศได้
วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับคุณ
การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ดีควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้
1. พื้นที่การใช้งาน (CADR):
CADR (Clean Air Delivery Rate) คืออัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ยิ่งค่านี้สูงยิ่งฟอกอากาศได้เร็ว
หลักการ: ควรเลือกเครื่องที่มีค่า CADR และขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของห้องที่คุณต้องการใช้งาน (เช่น ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น)
2. ชนิดของไส้กรอง (Filter Type):
ไส้กรอง HEPA: เป็นไส้กรองที่สำคัญที่สุด ใช้ดักจับอนุภาคขนาดเล็ก เช่น PM 2.5, ฝุ่น, เกสรดอกไม้ ควรเลือกที่ระบุว่าเป็น True HEPA
ไส้กรอง Carbon (คาร์บอน): ใช้สำหรับดูดซับกลิ่นและสารเคมีที่เป็นแก๊ส
ไส้กรอง Pre-Filter: ดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ เพื่อยืดอายุการใช้งานของไส้กรอง HEPA
3. ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา:
ควรตรวจสอบ ราคาและอายุการใช้งานของไส้กรองทดแทน เพราะคุณจะต้องเปลี่ยนไส้กรองตามรอบเวลาที่กำหนด
4. คุณสมบัติเสริมอื่นๆ:
โหมดอัตโนมัติ (Auto Mode): เครื่องจะปรับความแรงตามคุณภาพอากาศที่ตรวจจับได้
เซนเซอร์วัดคุณภาพอากาศ (Air Quality Sensor): ช่วยให้คุณทราบสถานะของอากาศในห้อง
โหมดกลางคืน (Sleep Mode): ลดเสียงรบกวนในการทำงานขณะที่คุณนอนหลับ
สรุป: การลงทุนในเครื่องฟอกอากาศเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณและคนที่คุณรักในระยะยาว





















