สัญญาณเตือน เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังมีปัญหา รีบเช็กก่อนสายเกินไป

04/21/2025

    เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นของที่เราใช้งานทุกวันจนบางครั้งอาจมองข้าม "สัญญาณเตือน" เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บอกว่าเครื่องกำลังมีปัญหา และถ้าไม่รีบซ่อมหรือเปลี่ยน อาจเสี่ยงต่อการเสียหายหนัก หรืออันตรายถึงขั้นไฟไหม้ได้ มาดูกันว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่ควรสังเกต

1. เครื่องใช้ไฟฟ้าร้อนผิดปกติ

    หากเปิดใช้งานไม่นาน แต่เครื่องกลับร้อนจนแตะไม่ได้ หรือมีเสียง "จี๊ดๆ" ร่วมด้วย อาจเกิดจากระบบระบายความร้อนมีปัญหา หรือสายไฟเสื่อมสภาพ

2. มีเสียงผิดปกติขณะใช้งาน

    เสียงดังขึ้น, สั่น, หรือมีเสียงแปลกจากเดิม เช่น แอร์มีเสียงแหลม ๆ , ตู้เย็นมีเสียงครืดคราด นั่นคือสัญญาณว่าชิ้นส่วนภายในเริ่มเสื่อม หรือมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายใน

3. เครื่องดับเอง/ไฟกระพริบ

     หากเครื่องใช้ไฟฟ้าดับบ่อยโดยไม่กดปิด หรือไฟหน้าจอกระพริบ อาจเป็นปัญหาจากระบบวงจรไฟฟ้าภายใน หรือแรงดันไฟไม่สม่ำเสมอ

4. กลิ่นไหม้ หรือกลิ่นแปลกขณะใช้งาน

     กลิ่นพลาสติกไหม้, กลิ่นร้อนผิดปกติ เป็นสัญญาณอันตรายมาก อาจเกิดจากสายไฟละลายหรือไหม้ภายใน ควร ถอดปลั๊กทันที และส่งซ่อม

5. ปลั๊กหรือเต้ารับร้อน/มีรอยไหม้

     อุปกรณ์บางอย่างอาจไม่ได้มีปัญหาที่ตัวเครื่อง แต่เกิดที่ ปลั๊กไฟหรือเต้ารับ หากสังเกตว่าปลั๊กร้อนจัด มีรอยไหม้ หรือเสียบแล้วหลวม ควรหยุดใช้ทันที

6. ค่าไฟพุ่งผิดปกติ

    อยู่ดี ๆ ค่าไฟพุ่งสูงทั้งที่พฤติกรรมการใช้งานเท่าเดิม อาจเป็นเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าบางตัวกินไฟผิดปกติ หรือมีปัญหาด้านการทำงาน เช่น แอร์ไม่ตัดอัตโนมัติ, ตู้เย็นคอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา

วิธีดูแลและป้องกันปัญหาเครื่องใช้ไฟฟ้า

1. หมั่นตรวจสอบสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า

     ควรสังเกตสายไฟ ปลั๊ก และเต้ารับว่ามีรอยขาด หัก หรือหลวมไหม หากพบให้เปลี่ยนทันที ห้ามใช้เทปพันสายไฟแทนการซ่อมแซมแบบถาวร

2. ไม่ใช้งานปลั๊กร่วมเกินพิกัด

      การเสียบอุปกรณ์หลายตัวเข้ากับปลั๊กพ่วงเดียวกัน อาจทำให้เกิดความร้อนสูงและเสี่ยงต่อการลัดวงจร ควรใช้ปลั๊กที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ และได้มาตรฐาน มอก.

3. ถอดปลั๊กเมื่อเลิกใช้งาน

     นอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากไฟกระชาก และป้องกันอุบัติเหตุกรณีไฟฟ้าผิดปกติ

4. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า

     เช่น เบรกเกอร์กันไฟรั่ว (RCD/RCBO) และอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับบ้าน

5. ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

    ฝุ่นและคราบสกปรกอาจขัดขวางการระบายความร้อน หรือเข้าไปในวงจรไฟฟ้า ทำให้เครื่องเสียหายเร็วกว่าที่ควร

6. ห้ามใช้อุปกรณ์ในที่เปียกชื้น

     พื้นที่อย่างห้องน้ำหรือบริเวณที่มีน้ำกระเด็น ควรใช้อุปกรณ์ที่มีการป้องกันน้ำ และไม่สัมผัสปลั๊กหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยมือเปียก

7. ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละครั้ง

     โดยเฉพาะบ้านที่มีอายุการใช้งานนาน หรือมีการต่อเติมระบบไฟบ่อย ๆ

    หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณผิดปกติเหล่านี้ อย่ารอให้เครื่องพังหรือเกิดอันตราย รีบถอดปลั๊ก หยุดใช้งาน และติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนในบ้าน

     หากคุณวางแผนที่จะลงทุนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน สามารถเข้ามาที่ สุโขทัยธงชัยวิทยุ ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำ ครบครัน แอร์ ตู้เย็น ซักผ้า มือถือ และไอที มีบริการจัดส่ง ติดตั้ง และบริการหลังการขาย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://www.thongchaivittayu.com/

FAQ

  • จะรู้ได้อย่างไรว่าอุปกรณ์ใดมีปัญหา ?

      สามารถตรวจสอบได้โดย ฟังเสียงผิดปกติ เช่น เสียงซ่า เสียงจี่ สังเกตกลิ่นไหม้ ความร้อน หรือแสงไฟกระพริบ หากมีระบบสมาร์ทโฮม ให้ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชันว่ามีอุปกรณ์ใดแจ้งเตือนหรือใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปกติ

  • ควรทำอย่างไรเมื่อพบปัญหา ?

      เริ่มจากถอดปลั๊กอุปกรณ์ที่สงสัยออกทันที ปิดเบรกเกอร์ของปลั๊กหรือวงจรที่เกี่ยวข้อง หลีกเลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ที่ร้อนหรือมีกลิ่นไหม้ หากไม่แน่ใจ ให้ติดต่อช่างไฟฟ้าหรือโทรสอบถามที่สุโขทัยธงชัยวิทยุ